ในการฝึกหัดระยะแรก ตัวพระ ตัวนาง ตัวยักษ์และตัวลิง จะฝึกหัดร่วมกันคือฝึกตบเข่า ถองสะเอวและเต้นเสา เพื่อให้รู้จักจังหวะและเคยชินกับเสียงดนตรี อันเป็นหลักสำคัญในการฝึกเรียนรู้การยักเยื้องลำตัว ยักหน้า ยักคอ ยักไหล่ให้คล่องแคล่ว โดยมีกลองให้จังหวะ มีกำลังขาคงที่ กระทืบเท้าให้หนักแน่น ฝึกเต้นตามจังหวะที่เรียกว่า "ตะลึกตึก" การเต้นตะลึกตึกคือการย่อเข่าทั้งสองข้างลงให้เป็นมุมฉาก ใช้เท้าขวายกกระทืบลงกับพื้น 1 ครั้ง วางเท้าอยู่กับที่ ใช้เท้าซ้ายยกลงกระทืบลงกับพื้น 1 ครั้ง แล้ววางอยู่กับที่ โดยการเต้นนั้น ผู้แสดงจะใช้เท้าขวาหรือซ้ายยกกระทืบพื้นก่อนก็ได้ ส่วนการฝึกเต้นเสานั้น เป็นการหัดให้ผู้แสดงตัวพระ ตัวยักษ์และตัวลิงยกเว้นเฉพาะตัวนาง ใช้จังหวะเท้าในการเต้นให้มีความสม่ำเสมอ มีกำลังขาแข็งแรง กระทืบฝ่าเท้าทุกส่วนลงกับพื้นโดยพร้อมเพรียงและมีน้ำหนักเท่า ๆ กัน
แม้จะเป็นการแสดงที่ยาก ต้องอาศัยการฝึกฝนเป็นเวลานานจนชำนาญ ช่ำชอง คนเล่นโขนยังมีแนวคิดที่จะเผยแพร่ต่อไปเพื่อไม่ให้ศิลปะเหล่านี้หายไปกับการเวลา ทุกหยาดเหงือที่ไหลออกมานั้นเป็นคุณค่าแห่งศิลป์ ที่กำลังจะหายไป...โชคดีที่ทุกวันนี้ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถได้ให้การสนับสนุนจัดให้มีมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพจัดแสดงโขนเป็นประจำทุกปี
No comments:
Post a Comment