ประเพณีแห่เทียนพรรษาของชาวอุบลราชธานี
งานประเพณีแห่เทียนพรรษา เป็นประเพณี ของชาวอุบลฯ มาเป็นเวลานาน ถือเป็นงานบุญที่ยิ่งใหญ่มีชื่อเสียงระดับชาติ ของจังหวัดอุบลราชธานี โดยมีกำหนดจัดงานขึ้นในช่วงวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา ของทุกปี
ความเป็นมาเรื่องเทียนพรรษา
มีเรื่องเล่า ว่า พระอนุรุทธะ เป็นสาวกของพระพุทธเจ้า เป็นผู้มีปัญญาเฉียบแหลม เฉลียวฉลาดรู้อรรถ รู้พระธรรมวินัยแตกฉาน จนเป็นที่เรื่องลือเกี่ยวกับเรื่องนี้ พระพุทธเจ้าตรัสว่า ในชาติปางก่อน พระอนุรุทธะเคยได้ให้แสงสว่างเป็นทาน จึงมีปัญญาเฉลียวฉลาด เรื่องราวทั้งหลาย จึงได้สืบทอดมาจนยุคปัจจุบัน และ นำขี้ผึ้งมาทำเป็นเทียนถวายพระสงฆ์ย่อมได้บุญกุศลเช่นเดียวกับพระอนุรุทธะที่เคยให้แสงสว่างเป็นทาน จึงมีผู้คนได้คิดทำเทียนประเภทต่างๆ ขึ้นเพื่อ ถวายพระสงฆ์
ต้นกำเนิดงานประเพณีแห่เทียนพรรษาของชาวอุบลฯ
เดิมทีชาวอุบลไม่มีการหล่อเทียนแห่เทียนเช่นปัจจุบัน แต่ชาวบ้านจะฟั่นเทียนยาวรอบศีรษะไปถวายพระเพื่อจุดบูชาจำพรรษาจะมีก็แต่การแห่บั้งไฟเท่านั้นซึ่งงานแห่บั้งไฟมักจะมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันอยู่เป็นประจำเนื่องจากเป็นงานที่มีการกินเหล้าเมายากันแบบเต็มที่ ครั้นมาถึงสมัยพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์ เป็นผู้สำเร็จราชการเมืองอุบล คราวหนึ่งมีการแห่บั้งไฟที่วัดกลาง มีคนไปดูมาก ในการแห่บั้งไฟมีการตีกันในขบวนแห่จนถึงแก่ความตาย เสด็จในกรมเห็นว่าไม่ดี จึงให้เลิกการแห่บั้งไฟและเปลี่ยนเป็นการแห่เทียนแทนและการแห่เทียนแต่เดิมไม่ได้จัดใหญ่โตเช่นปัจจุบัน เพียงแต่ชาวบ้านร่วมกันบริจาคเทียน แล้วนำเทียนมาติดกับลำไม้ไผ่ที่เตรียมไว้ ตามรอยต่อหากระดาษจังโก (กระดาษสีเงินสีทอง) ตัดเป็นลายฟันปลาปิดรอยต่อ เสร็จแล้วนำต้นเทียนไปมัดติดกับปิ๊ปน้ำมันก๊าด ฐานของต้นเทียนใช้ไม้ตีเป็นแผ่นเรียบ หรือทำสูงขึ้นเป้นชั้นๆ ติดกระดาษ เสร็จแล้วมีการแห่นำไปถวายวัด พาหนะที่ใช้นิยใช้เกวียน หรือล้อเลื่อนที่ใช้วัวหรือคนลากจูง การแห่ของชาวบ้านก็จะมีฆ้อง กลอง กรับ และการฟ้อนรำด้วยความสนุกสนานในกาลต่อมา ได้มีการประดิดประดอย ตกแต่งต้นเทียนสั้น ยาว ปานกลาง ตั้งขึ้น นำเชือกปอ ตัดกระดาษสีมารัดเป็นเปลาะๆ ให้แปลกตาเกิดความสวยงาม ถึงกับระยะเวลาต่อมา ได้มีการท้าทายประกวดประชันของชาวคุ้มวัดต่างๆ ว่า ของใครจะทำดี ทำสวย ทำแปลก ตลอดจนมีการแห่แหนด้วยหมอลำ หมอขับ หมอร้อง มีเครื่องดนตรี ดีดสีตีเป่า ตามแต่จะหาได้
No comments:
Post a Comment