Saturday, March 2, 2013

ตำนานการทำต้นเทียนเมืองอุบลฯ


ตำนานการทำต้นเทียนเมืองอุบลฯ
  ต้นเทียนประเภทมัดรวม
เป้นการทำต้นเทียนแบบง่ายๆเพียงแต่ชาวบ้านร่วมกันบริจาคเทียน แล้วนำเทียนมาติดกับลำไม้ไผ่ที่เตรียมไว้ ตามรอยต่อหากระดาษจังโก (กระดาษสีเงินสีทอง) ตัดเป็นลายฟันปลาปิดรอยต่อ เสร็จแล้วนำต้นเทียนไปมัดติดกับปิ๊ปน้ำมันก๊าด ฐานของต้นเทียนใช้ไม้ตีเป็นแผ่นเรียบ
 หรือทำสูงขึ้นเป้นชั้นๆ ติดกระดาษ เสร็จแล้วมีการแห่นำไปถวายวัด

   ต้นเทียนประเภทพิมพ์ลาย

 ประมาณ พ.ศ.2480 การทำต้นเทียนได้พัฒนาขึ้น โดยใช้การหล่อออกจากเบ้าพิมพ์ที่เป็นลายง่ายๆ เช่น ประจำยาม กระจัง ตาอ้อย บัวคว่ำ บัวหงาย ก้ามปู ฯลฯ แล้วนำไปติดที่ลำต้นเทียน
และประดับฐานต้นเทียนด้วยรูปปั้นสัตว์และลายไม้ฉลุ ทำให้ดูสวยงามมากขึ้น

  ต้นเทียนประเภทแกะสลัก
 ทำเป็นครั้งแรกเมื่อ พ.ศ.2502  โดยใช้การหล่อและกลึงขึ้นรูปต้นเทียนก่อนที่แกะสลักต้นเทียนด้วยขั้นตอน ดังนี้

          ออกแบบลายที่จะแกะสลัก โดยการร่างทั้งส่วนฐานลำต้นและยอดเทียน ใช้เครื่องมือแกะสลักซึ่งจะมีการเซาะ เจาะ ขีด และขูด ให้เป็นรูปสามมิติ เหมือนของจริง หรือรูปที่ร่างไว้ตามจินตนาการ แก้ไขส่วนที่บกพร่องในระหว่างการแกะสลัก อาจมีการผิดพลาดได้ เช่น รูปที่แกะมีขนาดเล็กหรือใหญ่เกินไป หรือบางส่วนแตกหัก ก็ต้องแก้ไขปรับปรุงให้เรียบร้อย

         เทคนิคการทำต้นเทียนแบบต่างๆ

 ต้นเทียนประเภทติดพิมพ์ มักหล่อให้มีขนาดเล็กเพราะมีการติดดอกเสริมโดยรอบให้หนาขึ้น ส่วนขี้ผึ้งก็ใช้ชนิดคุณภาพพอใช้ได้ซึ่งมีราคาถูก ส่วนต้นเทียนประเภทแกะสลักต้องทำให้มีขนาดใหญ่เอาไว้ เพื่อที่จะแกะสลักหรือขูดออก ขี้ผึ้งที่ใช้เป็นชนิดคุณภาพดีทั้งนี้ ก็เพราะว่า หากขี้ผึ้งคุณภาพไม่ดี เมื่อแกะสลักลึกและซับซ้อนหลายขั้น ขี้ผึ้งจะแตกหัก

   งานประเพณีแห่เทียนพรรษา จ.อุบลราชธานี เป็นงานที่แสดงออกถึง การยึดมั่นสืบสานงานบุญทางพระพุทธศาสนาอย่างเคร่งครัดของชาวเมืองอุบลฯ แล้ว ยังเป็นงานที่แสดงออกถึงวิวัฒนาการด้านศิลปะของสกุลช่างเมืองอุบลฯ อีกด้วย อย่าลืมหาโอกาสไปชมให้ได้ สักครั้งในชีวิตแล้วจะได้เห็นพลังศรัทธาของชาวเมืองอุบล

No comments:

Post a Comment