
26 ปีมาแล้วนับตั้งแต่เรียนหนังสือจบมา ก็ไม่เคยมีกิจกรรมออกกำลังกายใดๆอีกเลย การที่จะมาวิ่งออกกำลังกายครั้งนี้ถือได้ว่า เป็นสร้างภาระให้เกิดกับกล้ามเนื้อ , กระดูก , เอ็นและข้อต่อ ฯลฯ ทั่วร่างกาย แม้ว่าจะเป็นการวิ่งที่ช้า เบาและน้อยกว่านักกีฬาก็ตาม เพราะเป็นของใหม่ร่างกายเรายังไม่เคยชิน ดังนั้นจะเอาอะไรมาเป็นบรรทัดฐานของนักวิ่งหน้าใหม่อย่างผมคงจะยากเพราะสภาพความสมบูรณ์เบื้องต้นของแต่ละคนไม่เท่ากัน ดังนั้น การร่างแผนโปรแกรมฝึกของผมจึงไม่ได้อ้างอิงตารางฝึกของใครเป็นการเขียนขึ้นจากการประเมินสุขภาพเบื้องต้นของผมเองหลังจากการได้ ฝึกเดินมาแล้ว 2 ครั้งโดยอาศัยหลักการ การเพิ่มน้ำหนักในการฝึกและพักผ่อนให้สอดคล้องกับสมรรถนะของผมเองดังนี้
การเตรียมร่างกายและจิตใจ
ในช่วง 2 สัปดาห์แรกผมจะไม่วิ่งเลยแต่จะใช้วิธีการเดินเพื่อปรับสภาพร่างกายให้พร้อมก่อน เป็นการเตือน ระบบบประสาท,กล้ามเนื้อ , กระดูก , เอ็น,ข้อต่อ ฯลฯ ทั่วร่างกายและ นาฬิกาชิวิตของผมให้ทราบว่าจะต้องมีกิจกรรมการออกกำลังกายแล้วนะ และการเดินเป็นกิจกรรมที่ไม่หนักมากสามารถเดินได้เป็นระยะทางใกลๆแม้จะใช้เวลามากแต่ก็เป็นกำลังใจให้ตัวเองเป็นอย่างดี
การเริ่มต้นหัดวิ่ง
ในสัปดาห์ที่ 3 ถึง สัปดาห์ที่ 12 เป็นการเริ่มต้นการวิ่งเปรียบเสมือนเด็กหัดวิ่งโดยเริ่มจากลักษณะท่าทางการวิ่ง การหายใจซึ่งในขั้นนี้ผมจะไม่เน้นหนักเรื่องความเร็วแต่จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของการเคลื่อนไหวของร่างกายและระบบหายใจเพื่อต้องการพื้นฐานที่ถูกต้องและป้องกันการบาดเจ็บในอนาคต
การวิ่งเพื่อสร้างกล้ามเนื้อและความอดทน
หลังจากสัปดาห์ที่ 12 ไปแล้วผมก็คิดว่าเป็นเวลาของการวิ่งจริงๆ ของผมแล้วละ หลังจากนี้ไปการวิ่งของผมจะเป็นการเพิ่มสมรรถนะในการวิ่งเพื่อสุขภาพความแข็งแรง ตลอดจนหากคึกขึ้นมาก็คงพอที่จะฟิตซ้อมเตรียมเข้าร่วมงานเดินวิ่งเพื่อการกุศลต่าง ๆได้บ้าง แล้วคอยตามดูว่าผมจะทำได้หรือเกิดการท้อจนล้มเลิกไปกลางคันเสียก่อน ช่วยเป็นกำลังใจและเป็นเพื่อนหัดวิ่งไปกับผมด้วยนะครับ
No comments:
Post a Comment